โสกก่าม อ. เซกา จ. หนองคาย (ปัจจุบัน จ. บึงกาฬ ซึ่งเป็นที่ปฏิบัติธรรมขององค์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร มาก่อนจนถึงเป็นวัดสมบูรณ์จวบจนมาถึงปัจจุบัน) ซึ่งเป็นสถานที่สัปปายะเหมาะแก่การเจริญธรรมศึกษาธรรม ซึ่งพระอาจารย์อุทัย สิริธโร ได้พัฒนาสำนักสงฆ์แห่งนี้จนสามารถตั้งเป็นวัดได้สำเร็จในที่สุด เมื่อครั้นเสร็จงานพระราชทานเพลิงศพ ขององค์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เมื่อปีพ. ๒๕๒๑ องค์หลวงปู่อุทัยก็จำพรรษา อยู่ที่ถ้ำพระภูวัวเรื่อยมา ในปี พ. ๒๕๒๑ พระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสมฺปนฺโน) ได้ทราบข่าวการการปฏิบัติพระกรรมฐานของพระอาจารย์อุทัย สิริธโร ณ. สำนักสงฆ์ถ้ำพระภูวัว จึงได้เมตตาและมีโอกาสมาเยี่ยมพระอาจารย์อุทัย สิริธโร อยู่เสมอ ๆ จนกระทั่งในปี พ. ๒๕๔๘ พระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสมฺปนฺโน) ได้รับการบริจาคที่ดินบริเวณเขาใหญ่ พระอาจารย์อุทัย สิริธโร ท่านได้รับความเมตตาจาก องค์หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด ให้มาช่วยพัฒนา วัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน เพื่อให้เป็นที่เผยแพร่ธรรมะขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นที่ฝึกสอนเหล่าพระนักปฏิบัติทั้งหลาย ที่ตั้งใจฝึกปฏิบัติเพื่อพระพุทธศาสนา สามารถสืบทอดคำสั่งสอนของ พระพุทธเจ้าให้มั่นคง คือ ปฏิบัติดีและปฏิบัติตรง เพื่อให้รู้แจ้งในธรรมอันเป็นเครื่องพ้นจากกองทุกข์ทั้งหลาย ทั้งปวง เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบัน หลวงปู่อุทัย สิริธโร มีอายุครบ ๘๔ ปี (วันที่ ๑๒ มีนาคม พ.
นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาพระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนพูดมากกลายเป็นคนพูดน้อย จากคนที่หยิ่งยโสกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน จากคนที่ชอบจับผิดคนอื่นกลายเป็นคนที่หันมาจับผิดตัวเอง เมื่อออกพรรษาแล้วโยมแม่มาขอให้ลาสิกขา เพื่อกลับไปสืบต่อธุรกิจจากครอบครัว ท่านก็ยังไม่ยอมสึก
โนนผึ้ง อ. วารินชำราบ จ. อุบลราชธานี และท่านไม่เคยมองย้อนกลับไป อยากใช้ชีวิตฆราวาสอีก ท่านปฏิเสธโอกาสที่จะทำงานเพื่อเข้ามาดูแลและขยายอาณาจักรทางธุรกิจของบิดา รวมถึงมรดกซึ่งมูลค่าราว 9. 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเลือกเดินบนเส้นทางของการเจริญสมาธิภาวนาตามแนวปฏิบัติสายพระป่าของไทย อย่างไรก็ตามทางด้าน เฟซบุ๊ก สาขาวัดหนองป่าพง ได้เผยแพร่ข้อมูลของ พระสิริปันโน พร้อมรูปถ่ายยืนยัน และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันท่านจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์เต่าดำ จังหวัดกาญจนบุรี อันเป็นสาขาของวัดป่านานาชาติ โดยในภาพถ่าย พระสิริปันโน ถ่ายคู่กับ พระพรหมคุณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน อ. พุทธมณฑล จ. นครปฐม และพระอาจารย์ชยสาโร อาจารย์สิริปันโน (Ajahn Siripanno) หรือ Ven Siripanyo เป็นลูกชายคนเดียวของมหาเศรษฐี ที. อนันดากริชนัน (Tan Sri Ananda Krishnan) เป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญสุนทานชาวศรีลังกาเชื้อสายทมิฬซึ่ง Forbes จัดอันดับความรวยเป็นอันดับ 2 ของมาเลเซีย และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (2nd richest man in Malaysia & Southeast Asia and 89th in the world according to Forbes. ) ครอบครัวนี้มีลูกสาว 2 คน และมีลูกชายเพียง 1 คน คือ อาจารย์สิริปันโน ท่านจบการศึกษาจากประเทศอังกฤษ และสามารถพูดได้ถึง 8 ภาษา ท่านได้เลือกที่จะอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อ 18 ปีที่แล้ว และไม่เคยมองย้อนกลับมาอยากใช้ชีวิตฆราวาส ท่านปฏิเสธโอกาสที่จะทำงานเพื่อเข้ามาดูแลและขยายอาณาจักรธุรกิจของบิดา รวมทั้งปฏิเสธที่จะรับมรดกของครอบครัว ซึ่งมูลค่าราว 9.
ความเป็นจริงหมาป่าตัวนั้นมันเป็นขี้เรื้อน มันไม่ใช่เป็นเพราะพุ่มไม้ หรือโพรงไม้หรือถ้ำ หรือการยืน การเดิน การนั่ง การนอน มันไม่สบายเพราะมันเป็นขี้เรื้อน". พระภิกษุทั้งหลายนี้ก็เหมือนกัน ความไม่สบายนั้นคือ ความเห็นผิดที่มีอยู่ ไปยึดธรรมที่มีพิษไว้มันก็เดือดร้อน ไม่สำรวมอินทรีย์ทั้งหลาย แล้วก็ไปโทษแต่สิ่งอื่น ไม่รู้เรื่องของเจ้าของเอง ไปอยู่วัดหนองป่าพงก็ไม่สบาย ไปอยู่อเมริกาก็ไม่สบาย ไปอยู่กรุงลอนดอนก็ไม่สบาย ไปอยู่วัดป่าบุ่งหวายก็ไม่สบาย ไปอยู่ทุก ๆ สาขาก็ไม่สบาย ที่ไหนก็ไม่สบาย. นี่ก็คือความเห็นผิดนั้นยังมีอยู่ในตัวเรานั่นเอง มีความเห็นผิด ยังไปยึดมั่นถือมั่นในธรรมอันมีพิษไว้ในใจของเราอยู่ อยู่ที่ไหนก็ไม่สบายทั้งนั้น นั่นคือเหมือนกันกับสุนัขนั้น ถ้าหากโรคเรื้อนมันหายแล้ว มันจะอยู่ที่ไหนมันก็สบาย อยู่กลางแจ้งมันก็สบาย อยู่ในป่ามันก็สบายอย่างนี้ ผมนึกอยู่บ่อย ๆ แล้วผมก็นำมาสอนพวกท่านทั้งหลายอยู่เรื่อย เพราะธรรมตรงนี้มันเป็นประโยชน์มาก". หลังจากนั้นหลวงพ่อชาก็นำนั่งสมาธิ ถือเนสัชชิกตลอดทั้งคืน ขณะที่ทุกรูปนั่งหลับตาภาวนาอย่างสงบนั้น ในใจของพระใหม่กลับร้อนเร่าผิดปกติ นอกสงบ แต่ในวุ่นวาย นึกอย่างไรก็มองเห็นตัวเองไม่ต่างไปจากหมาขี้เรื้อนที่หลวงพ่อชี้ให้ดู ยิ่งนั่งสมาธินานๆ ยิ่งคันคะเยอในหัวใจ ทั้งอายทั้งสมเพชตัวเอง.
Sitemap | fromcoldtogold.com, 2024