ลักษณะของสิวผดเป็นยังไง?.. สิวผดจะเป็นสิวที่มีลักษณะเป็นผื่นหรือตุ่มเล็ก ๆ อยู่บนผิวหน้า โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก ทำให้ผิวหน้าดูแดง ๆ และมีอาการแสบคันบริเวณที่เป็นสิวผด ซึ่งแนะนำว่าให้รีบหาวิธีรักษาด่วนเลยนะคะ เพราะถ้าปล่อยไว้นาน ๆ สิวผดอาจจะลามไปทั่วทั้งหน้าเลยก็ได้... วิธีรักษาสิวผดอย่างถูกวิธี 1. ล้างหน้าให้สะอาด และล้างอย่างถูกวิธี เพื่อลดโอกาสการเกิดสิว โดยเฉพาะสิวอุดตันและสิวผด เวลาล้างหน้า หรือทำความสะอาดผิวหน้า ควรล้างหน้าให้ถูกวิธีกันด้วยนะคะ... แล้วถามว่า ล้างหน้าให้ถูกวิธีต้องมีขั้นตอนการล้างแบบไหน ล้างหน้าแบบทุกวันนี้ไม่ถูกวิธียังไง?... จริง ๆ แล้ววิธีการล้างหน้าให้ถูกวิธีนั้น มีอยู่ 3 ขั้นตอนง่าย ๆ เลย อย่างแรกให้เราเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่ง ต่อมา ให้ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าให้สะอาดแบบอ่อนโยน ด้วยการนวดไปบนผิวหน้าตามแนวรูขุมขน และสุดท้ายให้เช็ดผิวด้วยด้วยโทนเนอร์เพื่อเตรียมผิวในการบำรุง เพียงแค่ล้างหน้าให้สะอาดและล้างแบบถูกวิธีแค่นี้ ก็ลดโอกาสการเกิดสิวผดได้มากแล้วล่ะค่ะ 2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ อย่างที่บอกว่าเป็นสิวผดเป็นสิวที่เกิดขึ้นได้ง่ายมาก เจอแดด เจอฝุ่น หรือเจออากาศหน่อย ก็มีโอกาสเป็นสิวผดได้แล้ว เพราะฉะนั้น วิธีรักษาสิวผดอีกวิธี ที่ช่วยป้องกันการเกิดสิวผดได้ดีเลยก็คือ.. การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องผิวของเราจากมลภาวะ ฝุ่น ควัน หรือพวกสิ่งสกปรกได้ อย่างเช่น เวลาเลือกใช้ครีมบำรุงหรือสกินแคร์ ก็ควรเลือกใช้ตัวที่ป้องกันผิวจากมลภาวะ เหมือนบำรุงเพื่อเป็นเกราะในการป้องกันผิวอีกชั้นหนึ่ง เพื่อปกป้องผิว ไม่ให้โดนมลภาวะเหล่านั้นทำร้าย 3.
สิว เป็นแล้วก็ทิ้งรอย ไม่ว่าจะรอยดำหรือรอยแดง ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน และยิ่งไปกว่านั้น หลุมสิว ที่หายยาก ทำยังไงก็ไม่หายสักที วันนี้เราจึงรวบรวมสาเหตุที่ว่า หลุมสิวเกิดจากอะไร หลุมสิวรักษายังไง รักษาหลุมสิวแบบธรรมชาติ พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวมาฝาก จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย หลุมสิวเกิดจากอะไร? หลุมสิวส่วนใหญ่เกิดจากบาดแผล หรือการอักเสบของผิวหนัง ส่วนมากการอักเสบส่วนใหญ่จะเกิดกับผิวชั้นบนก็จะไม่ทิ้งรอยแผล และยุบตัวลง แต่ถ้าหากเกิดในชั้นที่ลึกลงไปผิวชั้นใน การรักษาแผลก็จะสร้างพังผืดทำให้ผิวหนังยุบลงไป ทำให้เกิดเป็นหลุมสิว ใครที่ไม่อยากเป็นหลุมสิวบนใบหน้า ก็จะต้องดูแลรักษาให้ถูกวิธี หลุมสิวอาจจะไม่มีการป้องกันการเกิดได้ 100% แต่ก็มีวิธีที่จะช่วยลดการเกิดหลุมสิวได้ โดยการดูแลผิวหน้าก่อนสิวอักเสบจะลุกลาม บทความที่เกี่ยวข้อง: ตำแหน่ง สิวบอกโรค รู้หรือไม่!? สิวบนใบหน้า บอกปัญหาสุขภาพได้! หลุมสิวเกิดจากอะไร วิธีลดการเกิดหลุมสิว ทำได้อย่างไร?
5 ได้ด้วย ฉะนั้น.. ปัญหาสิวผดที่เกิดจากอากาศร้อน ๆ หรือเกิดจากการแพ้แมสก์ อันนี้ไม่ต้องกังวลกันเลย ถ้าใช้ตัวนี้บำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง ผิวแข็งแรงมากขั้น แล้วก็ไม่ทำให้เป็นสิวแน่นอน....... เจลแต้มสิว BK Clearel Gel ตัวนี้เป็นเจลแต้มสิวที่แก้ปัญหาได้ทุกสิวเลยนะคะ ทั้งสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวสเตียรอยด์ และพวกสิวผดหรือสิวผื่นแพ้.. เพียงแค่แต้มเจลแต้มสิวลงบนบริเวณที่เป็นสิว เจลแต้มสิวตัวนี้ ก็จะเข้าไปช่วยลดอาการปวดสิว ลดอาการอักเสบบวมแดง และเร่งสิวให้สุกไวมากขึ้น ภายใน 60 นาที ซึ่งถือว่ายุบเร็วมากกกก!... ใครกำลังมีปัญหาสิวอยู่ แนะนำใช้อย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ เลยนะคะ จะเห็นผลได้อย่างชัดเจนเลยว่า สิวยุบลงจริง ๆ แล้วก็ตัวนี้สมานแผลหลังสิวยุบด้วย สิวหายแบบไม่ทิ้งรอยแน่นอน!.. ที่สำคัญคือ เป็นเจลแต้มสิวที่ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น และทำให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใสมากขึ้นอีกด้วย แนะนำเลย! ส่วนใครที่กังวลหรือกลัวแพ้ หรือกลัวระคายเคืองผิว ข้อนี้ไม่ต้องกังวลเลยนะคะ เพราะทั้งเจลแต้มสิวและตัวเซรั่ม เหมาะกับคนที่ผิวบอบบาง แพ้ง่าย! ไม่ต้องกังวลกันเลย ใครสนใจ ตอนนี้เซรั่มมีขายแล้วนะคะที่ 7 – Eleven Watsons และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศเลย... ส่วนเจลแต้มสิวมีขายที่ Watsons และตามตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สำหรับช่องทางออนไลน์ ตามไปช้อปกันได้ที่ Shopee Lazada และที่เพจ BKmaskofficial เลยค่ะ
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ลดโอกาสการเกิดสิว เวลาเลือกสกินแคร์สำหรับคนเป็นสิว หรือคนที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย อันนี้แนะนำเลยนะคะ ว่าควรเลือกสกินแคร์ที่บำรุงผิวให้ผิวแข็งแรง และลดโอกาสการเกิดสิวได้ด้วย... เพราะผิวที่ไม่แข็งแรง ทำให้เรามีโอกาสเป็นสิวได้ง่าย และสิวผดก็เป็นสิวที่เกิดขึ้นได้ง่ายเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น... แนะนำว่าควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดสิว และลดโอกาสการเกิดสิวใหม่มาใช้ดีกว่า 4.
รักษาด้วยยาทาภายนอก เป็นวิธีการรักษาที่ค่อนข้างปลอดภัย กรณีที่เป็นสิวชนิดไม่รุนแรงหรือไม่มีการอักเสบ มักจะใช้ยาทาภายนอก อาจจะใช้ชนิดเดียวหรือหลายชนิดร่วมกัน ดังนี้ Benzoyl peroxide เช่น BP, Benzac, Panoxyl, Brevoxyl,... มีทั้งชนิดครีมหรือเจล 2. 5% 5% 10% ใช้ทาก่อนล้างหน้า 5-15 นาที สารลอกผิว เช่น salicylic acid, AHA, BHA หรือ กรดผลไม้ชนิดต่างๆ มีหลากหลายรูปแบบ เช่น ครีม เจล โลชั่น ครีมล้างหน้า ใช้วันละ 2 ครั้ง ยาทาปฏิชีวนะ หรือ ยาฆ่าเชื้อ เช่น CM, Clindamycin, Erythromycin,... มีหลายรูปแบบ ทั้ง โลชั่น เจล ครีม ใช้ทาวันละ 2 ครั้งหลังล้างหน้า ยาทาเรตินอยด์ ( อนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ) เช่น Tretinoin, Isotretinoin, Adapalene,... มีหลายรูปแบบ เช่น เจล ครีม และหลายความเข้มข้น ใช้ทาวันละครั้งก่อนนอน เนื่องจากสารเรตินอยด์สลายตัว เมื่อโดนแสงแดด 2.
กรรมพันธุ์ การมีกรรมพันธุ์ที่ทำให้เกิดสิว เป็นดั่งเรื่องของโชคชะตา เพราะคนเราเลือกเกิดไม่ได้ ไม่มีใครสามารถเลือกได้ว่าจะเกิดมาในครอบครัวที่ไม่มีใครเป็นสิว มีผิวเพอร์เฟค เรื่องของกรรมพันธุ์จึงเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ และหาทางแก้ไขปรับเปลี่ยนกันในภายหลังได้ ด้วยวิธีการรักษาสิวแบบต่าง ๆ ที่จะอธิบายในหัวข้อถัดไป 4. รูปแบบการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ฮอร์โมนที่เสียสมดุลและภูมิต้านทานที่ลดลงเพราะการใช้ชีวิตไม่ถูกสุขลักษณะก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ผิวเกาะตัวหนาขึ้น เกิดการอุดตัน เมื่อรวมตัวกับเชื้อแบคทีเรียจึงทำให้เป็นสิวได้ การรักษาสิว การรักษาสิวแบบเดิม รักษาไม่หายเพราะเชื้อสิวยังอยู่ การรักษาสิวแบบเดิมที่นิยมใช้มีอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ 1. ทายาปฏิชีวนะ เช่น อิริโทมัยซินนามิก (erythromycin), คลินดามัยซิน (clindamycin) จะเป็นกลุ่มที่ช่วยลดปริมาณของ ที่รูขุมขนแล้วยังช่วยลดการอักเสบ 2. ทายาเบนซอยล์เปอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) ก็ช่วยลดปริมาณของ P. acne ที่รูขุมขน และช่วยลดการอักเสบ 3. ทายากลุ่มกรดวิตามินเอ จะช่วยละลายหัวสิวใช้ได้ดีในสิวชนิดไม่อักเสบ ยาแต่ละชนิดมีหลายความเข้มข้น ความเข้มข้นที่สูงจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย หากทายาต่อเนื่อง 2-4 สัปดาห์อาการยังไม่ดีขึ้นควรใช้ยารับประทานร่วมด้วย 4.
ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
สวมยกทรงขอบหนา การสวมยกทรงขอบหนาสำหรับผู้หญิงการสวมยกทรงถือเป็นเครื่องแต่งกายหลักหรือเครื่องแต่งกายประจำที่ทุกคนจะต้องสวมใส่เมื่อต้องออกไปข้างนอก หากเครื่องแต่งกายของเรามีความสกปรกก็เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่จะทำให้เราเกิดสิวตามมาบริเวณช่วงที่สัมผัสไม่ว่าจะเป็นในส่วนของหลังหรือไหล่หรือแม้แต่หน้าอก และนี่ก็คืออีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว 4. แพ้ยาสระผม ครีมนวด นอกจากรังแคหรือความมันบนหนังศรีษะที่ทำให้เกิดสิวแล้วยาสระผมหรือเครื่องประทินผมพวกกลุ่มของครีมนวดก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวบริเวณศีรษะหรือใบหน้าของเราได้หากเราพบว่ามีอาการแพ้เราควรรีบเปลี่ยนหรือปรับลดการใช้งานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวลงทันทีเพื่อไม่ให้เกิดสิวที่เพิ่มมากขึ้น 5. อารมณ์ ในด้านของอารมณ์พบว่าผู้ที่มีอารมณ์ดีจะมีสิวน้อยกว่าคนที่มีความเครียดมาก และส่งผลไปถึงการรักษาความสะอาดหากผู้ที่มีความเครียดมาก ก็จะไม่มีความรู้สึกอยากรักษาความสะอาดของตัวเองซึ่งจะทำให้เป็นสาเหตุร่วมในการเกิดสิวได้เพราะฉะนั้นการรักษาอารมณ์ให้สดใสและมีความสุขอยู่เสมอก็เป็นหนึ่งเรื่องที่จะทำให้เราห่างไกลจากสิว 6. การรับประทานของหวาน การรับประทานของหวานอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ ผิวหน้าของเรามีสิวได้รวมถึงอาหารประเภทแป้งด้วยนะ ซึ่งเป็นของโปรดของใครหลายคนแต่หากพบว่าหลังรับประทานอาหารแล้ว มีสิวตามมาภายหลังควรงดและหลีกเลี่ยงซะเพื่อความสวยงามของใบหน้าและผิวของท่านเอง 7.
สิวที่มีการอักเสบ เช่น สิวที่เป็นตุ่มแดง (สิวอักเสบ), สิวที่มีหนอง (สิวตุ่มหนอง), สิวอักเสบขนาดใหญ่ (สิวหัวช้าง) และสิวที่มีการทำลายของผิวข้างในจนเป็นโพรงคล้ายซีสต์ 2. สิวที่ไม่มีการอักเสบ เช่น สิวอุดตันหัวขาว (สิวอุดตันหัวปิด), สิวอุดตันหัวดำ (สิวอุดตันหัวเปิด) สาเหตุของการเกิดสิว 1. ปัจจัยภายในร่างกาย คือ ปัจจัยที่เกิดจากร่างกายเราเอง เช่น ระดับฮอร์โมน การตอบสนองของร่างกายต่อฮอร์โมน กรรมพันธุ์ โรคเรื้อรัง และผิวพรรณ ซึ่งเป็นสิ่งที่ติดตัวเราตั้งแต่กำเนิด และมักแก้ไขได้ยาก 2.
วิธีทางกายภาพ การกดสิว ใช้รักษาสิวอุดตันแบบชนิดหัวเปิด(สิวหัวดำ) ไม่ใช้รักษาสิวอักเสบ เนื่องจากทำให้สิวมีการอักเสบมากขึ้นได้ การฉีดสเตอรอยด์ใต้หัวสิว การใช้ยาสเตอรอยด์ ฉีดเข้าไปใน ตำแหน่งที่อักเสบนั้น จะทำให้การอักเสบของสิวลดลงอย่างรวดเร็ว แต่สิวอุดตันในตำแหน่งนั้นไม่ได้หายไป และสเตอรอยด์เอง ก็สามารถทำ ให้เกิดสิวอุดตันใหม่ขึ้นมาได้อีก 4. เลเซอร์ เป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษาสิวที่ถือว่าได้ผลค่อนข้างดีมาก แต่ควรได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด วิธีนี้มีรายจ่ายค่อนข้างสูง แต่ได้ผลเร็วกว่าวิธีอื่นๆ แม้สิวจะมีวิธีการรักษา แต่ทางที่ดีเราควรป้องกัน สาเหตุการเกิดสิว จะดีที่สุด เพราะเมื่อเกิดสิวแล้ว สิ่งที่น่ากังวลตามมานั่นก็คือ รอยสิว หลุมสิวที่ทิ้งไว้บนใบหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะหาย บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิว และวิธีทำให้หน้าใส
Sitemap | fromcoldtogold.com, 2024