ร. บ. สุรา 2493 ซึ่งมีอยู่ 47 มาตรา สาระสำคัญอันหนึ่งของกฎหมายนี้คือการปิดกั้นการทำเหล้าของผู้มีทุนน้อย เปิดโอกาสให้กับผู้มีทุนมากตั้งโรงงานผลิตสุรา ผูกขาดการขาย จับกุมผู้ผลิตสุราที่ไม่ปฏิบัติตาม พ. นี้ รวมถึงการมีไว้ในครอบครองซึ่งวัสดุ อุปกรณ์ ลูกแป้งในการทำเหล้า ก็ผิดกฎหมายนี้ทั้งสิ้น แต่การเรียกร้องให้ยกเลิก พ. สุรา 2493 นี้ แล้วยอมให้ผู้คนทำเหล้าอย่างเสรีโดยไม่มีกฎระเบียบใดๆมาควบคุมเลย ไม่น่าจะเป็นคุณ ทั้งในด้านความปลอดภัยต่อประชาชนคนดื่ม และในด้านภาษีที่ต้องเสียให้แก่รัฐ นี่ยังไม่รวมทั้งผู้ผลิตรายเก่าที่มีความพร้อมมากกว่าก็สามารถเข้ามาแข่งขันได้ สุดท้ายประชาชนคนทำเหล้าพื้นบ้านก็ไม่อาจแข่งขันได้ แนวทางที่น่าจะเป็นคือ มีกฎหมายคุ้มครองการผลิตสุราพื้นบ้านขึ้นมาทดแทน พ.
เครื่องเทศเป็นสิ่งที่ดีส่วนที่เข้มขึ้นจะเพิ่มรสชาติที่ซับซ้อนและถ้าตอนนี้อยู่ในส่วนผลิตผลให้คั้นน้ำ
ชเวปส์รส Dry Ginger Ale + เหล้า ผสมชเวปส์ก็ได้นะ ชเวปส์นี่ไม่ถือเป็นมิกเซอร์ที่แปลกเท่าไหร่ เพียงแต่คนส่วนใหญ่น่าจะชอบหยิบประป๋องสีเขียวที่เป็นรสมะนาวโซดามาผสมซะมากกว่า วันนี้เราเลยขอลองเป็นสีส้ม รส Dry Ginger Ale ดูผสมแบบง่าย ๆ ไม่ต้องพิถีพิถัน เหล้านิดหน่อยตามด้วยชเวปส์ แล้วก็น้ำแข็งซักก้อน อาจจะเพราะรสนี้กลิ่นไม่แรงนักเลยยังได้กลิ่นเหล้าชัดอยู่ (หรือใส่เหล้ามากไปก็ไม่รู้) รสชาติของชเวปส์ก็ไม่ชัดนัก ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร เอาไปสามดาว 2. C-vitt + น้ำแดง + วอดก้า สูตร C-vitt สำหรับคนรักสุขภาพ ด้วยความที่อยากจะลองทำคอกเทลเป็นชั้น ๆ เลยลองหยิบ น้ำแดงกับ C-vitt มาผสมกันดู แล้วตามด้วยวอดก้าชั้นบนสุด ซึ่งก็สวยดีแต่พอกินแล้วไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เพราะว่า กลิ่นของน้ำแดงและน้ำส้ม ที่ค่อนข้างจะแรงทั้งคู่ทำให้กลิ่นตีกัน แถมยังหวานเจี๊ยบ แต่ก็ถือว่ากินง่ายเพราะแทบไม่ได้กลิ่นวอดก้าเลย สาว ๆ อาจจะชอบ แต่สำหรับสายแข็งคิดว่าหวานเกินไป ให้สองดาวครึ่งพอ 3. น้ำใบเตย + วอดก้า ผสมน้ำใบเตยสวย ๆ เบาๆ กินเหล้ามันไม่ดีต่อสุขภาพ ถ้าไม่อยากรู้สึกผิดก็กินกับน้ำสมุนไพรมันซะเลย เป็นน้ำใบเตยหอม ๆ ช่วยบำรุงหัวใจ แล้วเติมวอดก้าอีกหน่อย ขอบอกเลยว่าหอมมากกก แต่อย่าเผลอใส่วอดก้าเยอะเกินไปนะคะ เพราะแม้กลิ่นจะหอมแต่พอกินเข้าไปวอดก้าก็บาดคอใช้ได้เลย แก้วนี้เกือบจะดีแต่ยังไม่สุด ขอให้สามดาวแล้วกัน 4.
ลิปตัน + เหล้า ลิปตันเลมอนก็มาจ้า สูตรนี้ไม่ใช่ของแปลก แต่เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงยังไม่เคยลองเพราะไม่คิดว่าชามะนาวกับเหล้าจะเข้ากันได้ ซึ่งจริง ๆ มันเข้ากันได้ แถมเข้าดันได้ดีด้วยแหละ แต่ถ้าจะกินแนะนำว่าให้ผสมเหล้าบาง ๆ หน่อย ไม่งั้นกลิ่นเหล้าจะกลบกลิ่นหอม ๆ ของลิปตันหมด ถ้าใครไม่ชอบกินเข้ม ๆ แค่อยากกินเล่นเพลิน ๆ อยากให้ลองสูตรนี้ แก้วนี้เอาไปสี่ดาว 8. ยาคูลท์ + เจเล่บิวตี้ + เหล้า เริ่มแปลกขึ้นเรื่อย ๆ เหล้าผสมยาคูลท์มันธรรมดาเกินไปใช่มั้ยคะ ถ้าอย่างงั้นลองเติมเจเล่บิวตี้เข้าไปด้วย สูตรนี้เป็นอีกสูตรที่ หอมหวาน กินง่าย เหมาะสำหรับสาว ๆ หรือไม่ก็เอาไว้ใช้มอมเพื่อน เพราะว่าทั้งกลิ่นทั้งรสของยาคูลท์กับเจเล่บิวตี้กลบกลิ่นเหล้าจนมิดเลย ถือว่าผ่าน เอาไปสี่ดาว 9. น้ำมะเขือเทศ + น้ำเสาวรส + วอดก้า น้ำมะเขือเทศดอยคำในตำนาน เป็นคนเฮลท์ตี้แต่อยากเมาหรอ งั้นต้องนี่เลย น้ำมะเขือเทศ ผสมน้ำเสาวรส ผสมวอดก้า ถ้าอยากได้สวย ๆ แนะนำให้ค่อย ๆ เททีละชั้นเริ่มจากน้ำเสาวรส ตามด้วยน้ำมะเขือเทศ แล้วตบท้ายด้วยวอดก้า จะได้คอกเทลแยกชั้นสวย ๆ ส่วนรสชาติก็จะออกแนวเปรี้ยวอมหวานกินแล้วสดชื่น แต่ถ้าใครเกลียดมะเขือเทศก็อย่าลองเลยไม่รอดแน่ ๆ แต่ส่วนตัวแอดชอบ งั้นให้ไปสี่ดาว 10.
1 สาโท หรือ น้ำขาว สาโทเป็นเหล้าแช่ที่ทำจากข้าวนำมาหมักกับลูกแป้ง จนเกิดการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล หลังจากนั้นน้ำตาลจะเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์ สาโทที่ผ่านกระบวนการทั้งหมดนี้จะมีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกิน 15 ดีกรี เช่น มักกอลลีของเกาหลี 3. 2 อุ หรือ เหล้าไห อุเป็นเหล้าที่ทำมาจากข้าวเหนียวผสมกับแกลบ แล้วนำมาหมักกับลูกแป้ง โดยจะหมักไว้ข้างนอกไหก่อน เพื่อให้ราเติบโตก่อนบรรจุลงในไห 1 คืน หลังจากนั้นรอจนเกิดการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล หลังจากนั้นน้ำตาลจะเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์ ซึ่งการหมักจะต้องอยู่ในสภาพปราศจากอากาศ 3. 3 เหล้าขาว หรือ เหล้ากลั่น เหล้ากลั่น หรือที่หลาย ๆ คนเรียกกันว่าเหล้าขาว เป็นเหล้าที่ได้จากการหมักน้ำตาลจากข้าว, ข้าวโพด หรืออ้อย โดยน้ำตาลอ้อยจะมีความหอม หวาน และมีคุณภาพกว่ากากน้ำตาลชนิดอื่น ต่อจากนั้นเติมยีสต์เข้าไปเพื่อให้ยีสต์กินน้ำตาลจนหมดแล้วคายแอลกอฮอล์ออกมา นำแอลกอฮอลก์ที่ได้ไปผ่านกระบวนการกลั่นเพื่อให้มีดีกรีสูงขึ้น โดยเหล้าขาวต้องปราศจากเครื่องย้อม หรือสิ่งผสมปรุงแต่งอื่นนอกจากน้ำ และมีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกิน 40 ดีกรี 3. 4 กะแช่ หรือ น้ำตาลเมา เป็นเหล้าแช่ที่ได้จากการหมักน้ำตาลสด เริ่มจากการที่ชาวบ้านจะนำกระบอกไม้มารองน้ำที่ไหลออกมาจากการปาดต้นตาล โดยชาวบ้านจะนำไม้เคี่ยม, ไม้พยอม หรือไม้ตะเคียนใส่ไว้ในกระบอกไม้ด้วย หลังจากนั้นน้ำตาลสดจะเริ่มทำปฏิกิริยาจนกลายเป็นยีสต์ตามธรรมชาติ และจะผลิตแอลกอฮอล์ออกมา ใช้เวลา 1 วัน ในการหมักน้ำตาลสดให้เป็นกะแช่ 3.
กาแฟ + ชามะลิ + วอดก้า สูตรนี้เริ่มเลอะเทอะ 555 กาแฟดำผสมน้ำชาน้ำผลไม้อาจจะไม่ใช่ของแปลกอะไร แต่อันนี้ขอบอกว่าไม่ผ่าน เหมือนรสชาติของกาแฟกับชามะลิมันตีกันแล้วทำให้ดึงรสชาติออกมาไม่สุดซักทาง แถมยังมีกลิ่นวอดก้าอีก เป็นแก้วที่รสชาติไปคนละทิศละทาง ไร้ซึ่งความสามัคคี เอาไปดาวเดียวพอ 14. ยาน้ำแก้ไอชวนป๋วยปีแป่กอ + โซดา + วอดก้า กวาดดาวมาทั้งจักรวาล เห็นต่างประเทศเค้าฮิตเอาชวนป๋วยไปชงกินกันแถมใส่ไข่มุกอีก มีหรอที่เราจะพลาด จัดไปเลยค่ะ ชวนป๋วย ผสมโซดา ตามด้วยวอดก้าอีกช็อต รสชาติไม่ต้องพูดถึง ดีงามตามสไตล์ชวนป๋วยหอมหวานแถมเป็นเหล้าที่กินแล้วชุ่มคออีกต่างหาก หวาน ๆ ซ่า ๆ ไม่เหม็นเหล้า ใครเจ็บคออยู่จัดสูตรนี้เลย หายเจ็บคอมั้ยไม่รู้ แต่รู้ว่าอร่อย ถ้าใครชอบกินอยู่แล้วจะเลิฟมาก ซึ่งแอดชอบเพราะฉะนั้นขอให้คะแนนแบบลำเอียง ยกให้เป็นเดอะเบสท์ เอาดาวทะลุหลอดไปเลยยย 15. C-vitt รสส้ม + น้ำผึ้ง + เหล้า น้ำผึ้งนัว ๆ เข้มๆ C-vitt และบรรดาน้ำส้มทั้งหลายถือเป็นหนึ่งในมิกเซอร์ที่หลาย ๆ คนชอบกินอยู่แล้ว เพราะหอม ๆ กินง่ายเหมือนกินน้ำผลไม้ แต่พอเติมน้ำผึ้งเข้าไปด้วยต้องบอกว่ามันอัพเกรดไปอีกขั้น มันมีความกลมกล่อมขึ้นแล้วก็หวานกว่าเดิมอีกนิดหน่อย ถือว่างานดี เอาไปห้าดาวเต็ม แต่แนะนำว่าให้ใส่ เชคเกอร์แล้วเขย่าเอานะ เพราะถ้ามัวคนเอาล่ะก็น้ำผึ้งมันไม่ละลายง่าย ๆ นะจ๊ะ 16.
Sitemap | fromcoldtogold.com, 2024